ส่วนของสมาชิก

พระปิดตา เนื้อเมฆพัด

พระปิดตา เนื้อเมฆพัด

หน้าแรก » กรุพระ » พระเครื่อง » พระปิดตา เนื้อเมฆพัด
Written by: seksan fundungnoen Posted in กรุพระ
Share : แบ่งปันไปยัง facebook

พระปิดตาเนื้อเมฆพัด หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้

"ในบรรดาพระปิดตาเนื้อเมฆพัดด้วยกันแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาบรรดานักเลงพระเขายกให้ พระปิดตาหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ เป็นสุดยอดอันดับหนึ่งของพระปิดตาเนื้อเมฆพัด"

25590416_04-1

ชาติภูมิของหลวงปู่นาคนั้น ท่านเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๕๘ (ร.ศ.๓๕) ตรงกับปีกุน จ.ศ.๑๑๗๗ ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ พัทธสีมาวัดพระปฐมเจดีย์ ตรงกับ พ.ศ.๒๓๗๙ พระอุปัชฌาจารย์ไม่ปรากฏนาม ทราบแต่พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระปฐมเจติยานุรักษ์ (หลวงปู่กล่ำ) เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ได้รับฉายา "โชติโก" หลวงปู่นาคได้เป็นผู้สร้างวัดห้วยจระเข้ร่วมกับประชาชน ปกครองวัดมานาน ๑๑ ปี ถึงกาลละสังขารเมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓ ด้วยโรคชรา รวมอายุได้ ๙๕ ปี ๗๔ พรรษา

หลวงปู่นาค สร้างพระปิดตามหาอุด เนื้อเมฆพัด เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๒ ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่หลวงปู่นาคได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ หลวงปู่นาคท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเนื้อเมฆพัดมาก การผสมเนื้อแร่ต่างๆ การปั้นพิมพ์ และการเทหล่อองค์พระท่านทำด้วยตัวท่านเอง องค์พระที่ท่านหล่อออกมาสวยงาม ไม่มีรอยตะเข็บ ไม่เป็นฟองอากาศ เนื้อพระเป็นสีดำอมเขียว สีดำเงาคล้ายปีกแมลงทับ สวยงามพิสดาร เนื้อพระผิวตึง สมบูรณ์แบบด้านรูปทรง เอกลักษณ์ของพระปิดตาห้วยจระเข้ นอกจากจะดูพิมพ์เป็นหลักแล้ว พระปิดตาห้วยจระเข้จะต้องมีการลง เหล็กจาร ทุกองค์ด้วย

ในการลงเหล็กจารนั้น มีเรื่องเล่ากันว่า หลวงปู่นาคท่านนำเอาพระปิดตาที่สร้างเสร็จแล้วไปลงเหล็กจาร ที่ท่าน้ำข้างๆ วัด โดยท่านจะดำลงไปจารอักขระใต้น้ำ เมื่อจารเสร็จแล้วจะปล่อยให้พระปิดตาลอยขึ้นมาเหนือน้ำเอง โดยมีลูกศิษย์ที่อยู่บนฝั่งคอยเก็บ  ถ้าพระปิดตาองค์ไหนลงจารแล้วไม่ลอยน้ำขึ้นมา แสดงว่าพระปิดตาองค์นั้นไม่มีพลังพุทธคุณ อันอาจจะเกิดอักขระวิบัติ จากการจารอักขระก็ได้

จากพิธีกรรมการสร้างอันเข้มขลังนี้เอง จึงทำให้พระปิดตาวัดห้วยจระเข้เป็นจักรพรรดิของพระปิดตาเนื้อเมฆพัดทั้งปวง

ในทางวิชาการนั้น การลงพื้นสี เช่น สีดำลงบนวัตถุที่สลักลายวัตถุนั้นจะเป็นสีทอง หรือสีเงิน ทางยุโรปเรียกกันว่า ทูลาซิลเวอร์ (Tula Silver) แต่ทูลาซิลเวอร์จะออกเป็นสีเขียวๆ คล้ายปีกแมลงทับ หรือที่เราเรียก กันว่า "เมฆพัด"  เมฆพัด เป็นส่วนผสมของโลหะ เช่นเดียวกับตัวยาถม ต่างกันที่เมฆพัดมีแต่ตะกั่วกับทองแดง ส่วนตัวยาถมมีตะกั่ว ทองแดง และเงิน

ส่วนคติความเชื่อในการสร้างวัตถุมงคลนั้น "เนื้อเมฆพัด" เป็นโลหะที่ได้จากการเล่นแร่แปรธาตุ ตามตำราของไทยโบราณเชื่อว่า เป็นธาตุกายสิทธิ์ มีฤทธานุภาพในตัวเอง  เมฆพัดเป็นส่วนผสมของตะกั่ว และทองแดง มีกรรมวิธีการสร้างที่ซับซ้อน  ในระหว่างหลอมต้องผสมตัวยาหลายชนิด มีกำมะถัน ปรอท และว่านยา ได้แก่ ไพลดำ ต้นหิงหาย ไม้โมกผา ขิงดำ กระชายดำ สบู่แดง สบู่เลือด เป็นต้น  ซัดเข้าไปในเบ้าหลอม พอสำเร็จจะได้โลหะสีดำ เป็นมันเงาเลื่อมพราย แต่เปราะและแตกง่าย พระคณาจารย์แต่โบราณนิยมหลอมเมฆพัดมาทำเป็นพระเครื่อง

พระปิดตาห้วยจระเข้4

พระปิดตาเนื้อเมฆพัด มีการสร้างหลายวัดด้วยกันนั้น และมีการจัดเข้าเป็น ชุดเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อเมฆพัด เหมือนกัน ได้แก่ ๑.พระปิดตาหลวงปู่นาค โชติโก วัดห้วยจระเข้ จ.นครปฐม ๒.พระปิดตาหลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง จ.ราชบุรี ๓.พระปิดตาหลวงพ่อปล้อง วัดหลุมดิน จ.ราชบุรี ๔.พระปิดตาหลวงปู่ทิม วัดบางปลา จ.นครปฐม และ ๕.พระปิดตาหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม ในบรรดาพระปิดตาเนื้อเมฆพัดด้วยกันแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาบรรดานักเลงพระเขายกให้ พระปิดตาหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ เป็นสุดยอดอันดับหนึ่งของพระปิดตาเนื้อเมฆพัดด้วยกันทั้งหมด

สมัยก่อนพระปิดตาสำนักนี้มีชื่อเรียกติดปากกันว่า "พระปิดตาห้วยจระเข้" ถือว่าเป็นพระปิดตาที่มีประสบการณ์เยี่ยมยอดด้านคงกระพันกับมหาอุดเป็นที่ สุด ส่วนทางเมตตามหานิยมกับโชคลาภ ก็ไม่เบาเหมือนกัน 

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก

ที่มา: www.aj-ram.com/view/พระปิดตาเนื้อเมฆพัด หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้