มหาปุริสลักขณะ
"บุคคลอันถึงพร้อมด้วยความเป็นมหาบุรุษ 32 ประการ หาก เป็นมนุษย์ก็จะเป็นจักรพรรดิปกครองมหาชมพูทวีป หากบวชในศาสนาก็จะสำเร็จอรหันต์"
มหาปุริสลักขณะ (Mahapurisalakkhana) หมายถึงลักษณะ ของมหาบุรุษ หรือ บุรุษที่ยิ่งใหญ่ อันสื่อถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ซึ่งปรากฏในคัมภีร์มหาปทานสูตร ทีฆนิกาย มหาวรรค เป็นที่เชื่อกันว่า บุคคลอันถึงพร้อมด้วยความเป็นมหาบุรุษ 32 ประการ หาก เป็นมนุษย์ก็จะเป็นจักรพรรดิปกครองมหาชมพูทวีป หากบวชในศาสนาก็จะสำเร็จอรหันต์เป็นองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า
คัมภีร์มหาปุริสลักขณะ เข้าใจว่าคงจะได้รจนาเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ หรือสร้างกรอบแห่งองค์พระศาสดาแห่งพุทธศาสนาขึ้น เมื่อเกิดความจำเป็นต้องสร้างสัญลักษณ์ของศาสนาที่เรียกว่า "พระพุทธรูป" หลังการปรินิพพานของพระพุทธองค์กว่า 400 ปี เนื่องจากอิทธิพลการปั้นรูปเคารพของศิลปะชาติกรีกในดินแดน ตะวันตกเฉียงเหนือจของอินเดีย ที่รู้จักกันในชื่อ ศิลปะคันธารราษฎร์ เพื่อแยกพระพุทธองค์ออกจากมนุษย์ธรรมดาและกลาย มาเป็นเอกลักษณ์สำคัญขององค์พระปฏิมา รวมทั้งสื่อถึงคติความเชื่อ ทางศาสนาและประวัติศาสตร์ศิลปะมาจนทุกวันนี้ ซึ่ง "ลักษณะแห่ง มหาบุรุษ 32 ประการ" ประกอบด้วย
- ฝ่าพระบาทราบติดพื้น ไม่มีช่องให้ขนแมวรอดได้ จะพบได้จากรอยพระพุทธบาทและพระนอนต่างๆ ซึ่งมียันต์มงคล 108 ประการปรากฏอยู่
- มีจักรกลางฝ่าพระบาท
- มีส้นพระบาทยาว
- มีพระองคุลี หรือนิ้วพระหัตถ์ยาวเรียว ช่างมาจินตนาการเป็นนิ้วสี่นิ้วยกเว้นหัวแม่มือยาวเท่ากัน
- มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม
- ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายประดุจตาข่าย
- เรียวพระบาทงุ้มได้รูปประดุจสังข์คว่ำตามดำเนินดุจจะพลิ้วไปตามลม
- มีพระชงฆ์หรือหน้าแข้งเรียวดุจแข้งเนื้อทราย
- มีพระกรยาวจนพระหัตถ์จรดพระชานุหรือเข่า เห็นได้จากพระพุทธรูปยืนสมัยโบราณ หรือพระร่วงเปิดโลกยืนตอ
- มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก หมายถึง อวัยวะเพศงดงามซ่อนอยู่ในเนื้อไม่ปลิ้นออกนอก
- มีพระฉวีหรือผิวกายเป็นทองคำ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเราจึงต้องลงรักแล้วปิดทองพระพุทธรูป
- มีพระฉวีหรือผิวละเอียด
- มีพระโลมาหรือขน ขึ้นขุมละ 1 เส้น
- มีพระโลมาปลายงอน สีเหมือนดอกอัญชัน และขมวดเวียนทักษิณาวัฏหรือเวียนขวา
- มีวรกายตั้งตรงประดุจมหาพรหม
- มีพระมังสะหรือเนื้อเต็มในที่ 7 แห่ง คือ หลังพระหัตถ์ทั้งสอง หลังพระบาททั้งสอง หลังพระอังสะ (บ่า) ทั้งสอง และที่พระศอ
- พระสรีระร่าง กายท่อนบนผึ่งผายดุจพญาราชสีห์
- มีพระปฤษ ฎางค์หรือแผ่นหลังราบเต็มเสมอกัน
- ส่วนบน พระวรกายเท่ากับ 1 วาของพระองค์ (1 วาเท่ากับ 4 ศอก) คนธรรมดาอย่างมากจะมีอกแค่ 3 ศอก
- มีลำพระศอกลม
- มีเส้นประสาทรับรู้รสอาหารดีเยี่ยม
- มีพระหนุ หรือคางโค้งเหมือนวงจันทร์ประดุจคางพญาราชสีห์
- มีพระทนต์ 40 ซี่
- พระทนต์เรียบเสมอกัน
- พระทนต์เรียบชิดไม่มีร่อง
- มีเขี้ยวพระทนต์ 4 ซี่ สีขาวบริสุทธิ์
- มีพระชิวหาหรือลิ้นอ่อนและยาว อาจแลบถึงพระนลาฏหรือหน้าผากได้
- พระสุรเสียงกังวานดุจเสียงพรหม และอ่อนหวานดังนกการเวก
- มีพระเนตรดำขลับประดุจนิล
- ดวงพระเนตรแจ่มใสดุจตาลูกโค เพิ่งคลอด
- หว่างพระขนงหรือคิ้ว มีอุณาโลมหรือขนระหว่างคิ้วเวียนเป็นทักษิณาวัฏ
- มีพระเศียรงามบริบูรณ์
ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ช่างศิลปะได้จินตนา การมาเป็นองค์พระพุทธปฏิมา โดยพยายามคงลักษณะ "มหาบุรุษทั้ง 32 ประการ" ไว้ให้มากที่สุด ซึ่งหากพิจารณาพระพุทธรูป หรือพระเครื่องอย่างละเอียดก็ไม่ยากที่จะพบเห็นลักษณะของมหาบุรุษในคัมภีร์ ปรากฏเป็นประจักษ์พยานอยู่ แม้จะไม่ครบทั้งหมดแต่ก็ยังคงรักษาคติส่วนใหญ่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
โดย อ.ราม วัชรประดิษฐ์
ที่มา: www.aj-ram.com/view/มหาปุริสลักขณะ