ส่วนของสมาชิก

มหาปุริสลักขณะ

มหาปุริสลักขณะ

หน้าแรก » กรุพระ » พระพุทธรูป » มหาปุริสลักขณะ
Written by: seksan fundungnoen Posted in กรุพระ
Share : แบ่งปันไปยัง facebook

 มหาปุริสลักขณะ

"บุคคลอันถึงพร้อมด้วยความเป็นมหาบุรุษ 32 ประการ หาก เป็นมนุษย์ก็จะเป็นจักรพรรดิปกครองมหาชมพูทวีป หากบวชในศาสนาก็จะสำเร็จอรหันต์"

มหาปุริสลักขณะ (Mahapurisalakkhana) หมายถึงลักษณะ ของมหาบุรุษ หรือ บุรุษที่ยิ่งใหญ่ อันสื่อถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ซึ่งปรากฏในคัมภีร์มหาปทานสูตร ทีฆนิกาย มหาวรรค เป็นที่เชื่อกันว่า บุคคลอันถึงพร้อมด้วยความเป็นมหาบุรุษ 32 ประการ หาก เป็นมนุษย์ก็จะเป็นจักรพรรดิปกครองมหาชมพูทวีป หากบวชในศาสนาก็จะสำเร็จอรหันต์เป็นองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า

คัมภีร์มหาปุริสลักขณะ เข้าใจว่าคงจะได้รจนาเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ หรือสร้างกรอบแห่งองค์พระศาสดาแห่งพุทธศาสนาขึ้น เมื่อเกิดความจำเป็นต้องสร้างสัญลักษณ์ของศาสนาที่เรียกว่า "พระพุทธรูป" หลังการปรินิพพานของพระพุทธองค์กว่า 400 ปี เนื่องจากอิทธิพลการปั้นรูปเคารพของศิลปะชาติกรีกในดินแดน ตะวันตกเฉียงเหนือจของอินเดีย ที่รู้จักกันในชื่อ ศิลปะคันธารราษฎร์ เพื่อแยกพระพุทธองค์ออกจากมนุษย์ธรรมดาและกลาย มาเป็นเอกลักษณ์สำคัญขององค์พระปฏิมา รวมทั้งสื่อถึงคติความเชื่อ ทางศาสนาและประวัติศาสตร์ศิลปะมาจนทุกวันนี้ ซึ่ง "ลักษณะแห่ง มหาบุรุษ 32 ประการ" ประกอบด้วย

  1. ฝ่าพระบาทราบติดพื้น ไม่มีช่องให้ขนแมวรอดได้ จะพบได้จากรอยพระพุทธบาทและพระนอนต่างๆ ซึ่งมียันต์มงคล 108 ประการปรากฏอยู่
  2. มีจักรกลางฝ่าพระบาท
  3. มีส้นพระบาทยาว
  4. มีพระองคุลี หรือนิ้วพระหัตถ์ยาวเรียว ช่างมาจินตนาการเป็นนิ้วสี่นิ้วยกเว้นหัวแม่มือยาวเท่ากัน
  5. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม
  6. ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายประดุจตาข่าย
  7. เรียวพระบาทงุ้มได้รูปประดุจสังข์คว่ำตามดำเนินดุจจะพลิ้วไปตามลม
  8. มีพระชงฆ์หรือหน้าแข้งเรียวดุจแข้งเนื้อทราย
  9. มีพระกรยาวจนพระหัตถ์จรดพระชานุหรือเข่า เห็นได้จากพระพุทธรูปยืนสมัยโบราณ หรือพระร่วงเปิดโลกยืนตอ
  10. มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก หมายถึง อวัยวะเพศงดงามซ่อนอยู่ในเนื้อไม่ปลิ้นออกนอก
  11. มีพระฉวีหรือผิวกายเป็นทองคำ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเราจึงต้องลงรักแล้วปิดทองพระพุทธรูป
  12. มีพระฉวีหรือผิวละเอียด
  13. มีพระโลมาหรือขน ขึ้นขุมละ 1 เส้น
  14. มีพระโลมาปลายงอน สีเหมือนดอกอัญชัน และขมวดเวียนทักษิณาวัฏหรือเวียนขวา
  15. มีวรกายตั้งตรงประดุจมหาพรหม
  16. มีพระมังสะหรือเนื้อเต็มในที่ 7 แห่ง คือ หลังพระหัตถ์ทั้งสอง หลังพระบาททั้งสอง หลังพระอังสะ (บ่า) ทั้งสอง และที่พระศอ
  17. พระสรีระร่าง กายท่อนบนผึ่งผายดุจพญาราชสีห์
  18. มีพระปฤษ ฎางค์หรือแผ่นหลังราบเต็มเสมอกัน
  19. ส่วนบน พระวรกายเท่ากับ 1 วาของพระองค์ (1 วาเท่ากับ 4 ศอก) คนธรรมดาอย่างมากจะมีอกแค่ 3 ศอก
  20. มีลำพระศอกลม
  21. มีเส้นประสาทรับรู้รสอาหารดีเยี่ยม
  22. มีพระหนุ หรือคางโค้งเหมือนวงจันทร์ประดุจคางพญาราชสีห์
  23. มีพระทนต์ 40 ซี่
  24. พระทนต์เรียบเสมอกัน
  25. พระทนต์เรียบชิดไม่มีร่อง
  26. มีเขี้ยวพระทนต์ 4 ซี่ สีขาวบริสุทธิ์
  27. มีพระชิวหาหรือลิ้นอ่อนและยาว อาจแลบถึงพระนลาฏหรือหน้าผากได้
  28. พระสุรเสียงกังวานดุจเสียงพรหม และอ่อนหวานดังนกการเวก
  29. มีพระเนตรดำขลับประดุจนิล
  30. ดวงพระเนตรแจ่มใสดุจตาลูกโค เพิ่งคลอด
  31. หว่างพระขนงหรือคิ้ว มีอุณาโลมหรือขนระหว่างคิ้วเวียนเป็นทักษิณาวัฏ
  32. มีพระเศียรงามบริบูรณ์

ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ช่างศิลปะได้จินตนา การมาเป็นองค์พระพุทธปฏิมา โดยพยายามคงลักษณะ "มหาบุรุษทั้ง 32 ประการ" ไว้ให้มากที่สุด ซึ่งหากพิจารณาพระพุทธรูป หรือพระเครื่องอย่างละเอียดก็ไม่ยากที่จะพบเห็นลักษณะของมหาบุรุษในคัมภีร์ ปรากฏเป็นประจักษ์พยานอยู่ แม้จะไม่ครบทั้งหมดแต่ก็ยังคงรักษาคติส่วนใหญ่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

โดย อ.ราม วัชรประดิษฐ์

ที่มา: www.aj-ram.com/view/มหาปุริสลักขณะ